รองพื้นเนื้อบาล์มที่เปลี่ยนเป็นเนื้อครีมและกลายสภาพเป็นแป้ง
แห้งสบายผิว...
วันนี้ขอติดกระแสกับเค้าบ้างนะคะ .. กับรองพื้นเนื้อบาล์มแบบใหม่ ของ Giorgio Amani ที่อัดมาในตลับคุชชั่น
สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้ปาร์ติดพาวเวอร์มาพร้อมกับรองพื้นเนื้อบาล์ม อามานี่เลยจ้า
ปาร์ได้ทำการลองใช้ถึง 3ครั้ง เพราะลองไปครั้งแรกบอกเลยว่าผิดหวัง
เลยต้องใช้วนๆเพื่อความชัวร์ ถึงจะมาเม้าท์ให้ทุกคนได้ฟังกัน เผื่อใครยังลังเลไม่แน่ใจ หรือเจอเหตุการณ์เดียวกันหรือมีผิวแบบเดียวกันกับปาร์ จะได้เป็นข้อมูลเพิ่มเติมนะจ๊ะ
หลังแต่งหน้าเสร็จ ก็ถ่ายรูปจิกกล้องสักหน่อย
ไปเริ่มที่แพ๊คเกจกันก่อนเลยจ้าา
เปิดถุงมาปั๊บก็จะพบกับเจ้ากล่องสี่เหลี่ยมสีดำ
พิมพ์ชื่อรุ่นและเบอร์ของรองพื้น ด้วยตัวหนังสือสีแดงและสีขาว
พร้อม
สกรีนปั้มชื่อแบรนด์ GIORGIO ARMANI ด้วยอักษรนูนสีเงิน
(ในกล่องไม่มีใบแทรก เหมือนรองพื้นแบบขวดนะ)
เปิดกล่องมาเจอตลับสีดำเงาขลับกับโลโก้แบรนด์ด้วยสีแดง
ตลับเป็นพลาสติกสีดำเงา ฉะนั้นรอยนิ้วมือก็จะเยอะๆหน่อย แต่ก็ทำความสะอาดง่ายค่ะ
ตัวตลับค่อนข้างสูงและหนา พกใส่คลัชก็จะตุ่ยนิสนุง
ด้านหลังตลับ มีสติ๊กเกอร์ชื่อรุ่น/สีรองพื้นและโค้ดติดอยู่
(สิ่งนึงที่ทุกคนต้องระวังคือ ตัวเลขเบอรองพื้นและโค๊ด เล็บสะกิดนี่มีหลุดออกนะจ๊ะ ไม่ชอบตรงนี้)
เก็บใบเสร็จ ถ่ายรูปโค๊ดเก็บกันไว้เผื่อลืมวันผลิตนะจ๊ะ
ต่อกันที่ด้านใน
เปิดฝาตลับมาก็พบกับพัฟฟองน้ำนุ่มๆสีดำ มีแถบคาดแดงตามแบบฉบับอามานี่
ด้านบนของกระจก จะมีสติ๊กเก้อติดอยู่ (สาวเล็บยาวแอบแกะยากอยู๋)
หยิบฟองน้ำขึ้นก็พบกับถาดรองมีโลโก้นูนๆอามานี่
เปิดฝาถาดรองพัฟขึ้น เราก็จะเจอกับสติ๊กเกอร์สีขาวปิดรองพื้นไว้อีกชั้น
ทุกคนรู้มั้ยคะ ว่าตรงฝาปิดรองพื้น จะมีบุขอบยางสีดำนิ่มๆไว้อยู่รอบๆ ปาร์คิดว่าเค้ามีไว้กันฝุ่น
และป้องกันไม่ให้อากาศเข้า ซึ่งดีมากๆเลยค่ะ ...
แต่ตลับที่ปาร์ซื้อมานี้ มันปิดได้ไม่สนิท แบบลงล็อคพอดีอ่ะ
ต้องปิดตัวฝากระจกลงมาเลยให้มันดังแก๊ป!!
ท๊าด๊าาาา ... เจอกานสักทีเจ้ารองพื้นเนื้อบาล์ม ที่ใจจดจ่ออยากจะลองซะเหลือเกิน
รวมๆก็ดูสวยดี ก็สวยจริงแหล่ะ😍😍
ปาร์ลองเอานิ้ววอล์มบนรองพื้นดู โอ้วว ลื่นสมูท เป็นเนื้อบาล์มของแท้เลยจ้าวววว
แล้วก็เปลี่ยนเป็นครีมดังในภาพ แล้วทิ้งไว้สักพักก็จะแห้ง
แต่ก็ไม่ได้แห้งแข็งเป็นแป้งคาตลับนะคะ (ปลอดภัยต่อใจละ)
แต่ต้องรักษาความสะอาดตัวพัฟเป็นพิเศษ เพราะถ้ามีฝุ่นติดพัฟ
ก็จะลงไปเลอะในรองพื้นเนื้อบาล์มของเราด้วยจ้า
ลองใช้จริงแล้วเป็นไง?
""""""
มาต่อกันค่ะ
ครั้งแรกที่พนักงานทาให้ คือไม่ประทับใจในผลลัพธ์ที่ได้ เพราะพนักงานปาดๆลงผิวไม่ได้แท๊บๆ
ทำให้เห็นรูขุมขนชัด และตกร่องบริเวณใต้ตาและข้างจมูก ดูรองพื้นลอยๆออกมานอกผิว ไม่สวย
แต่ก็ตัดสินใจซื้อมาอยู่ดี เพราะชอบสีที่เข้ากับผิวขั้นสุด
รวมถึงความสะดวกใช้ ตอบโจทย์สำหรับปาร์มาก
หลังจากพนักงานที่เค้าท์เตอร์ลองทาบนผิวหน้าข้างขวาของปาร์ให้จ้า ก็จะดูลอยๆหน่อย แต่สีถูกใจมากค่ะ ของปาร์ เบอร์ 4.5 |
ทาเสร็จแล้วทั้งหน้า ลองแหงนหน้าหาแสง เห็นป่ะ เน้นรูขุมพี่ชัดเจนมากค่ะซิสสสส |
หลังจากเสียทรัพย์ให้อามานี่เป็นที่เรียบร้อยด้วยความเต็มใจ ก็ต้องรีบพุ่งตัวออกไปรับลูกอย่างไว (วันที่ซื้อ 5 เมษายน 62) |
และนี่คือสภาพหลังได้ลองผ่านไปเพียง 2ชั่วโมงเท่านั้น ร้องผี+++มากก ตกร่องค่ะ รองพื้นลอยออกมาเบย |
พี่หยิบออก และพูดกับเธอว่า ... พรุ่งนี้เรามาลองกันใหม่ และต่อจากนี้ คือสิ่งที่ค้นพบค่ะผู้โชมมม |
ค้นหาวิธี ใช้แล้วผิวสวยได้ละเจ้าค่ะ หลังแต่งหน้าเสร็จ แสงผ่านเบาๆ สวยยย |
หลังจากได้ลองมาสักพัก ก็ค้นพบว่า เจ้ารองพื้นตัวนี้ไม่ค่อยเหมาะกับสาวสภาพผิวแห้ง
และสาวที่มีรูขุมขนกว้าง เพราะเธอไม่ได้ช่วยเบลอเลย
แต่ยังไปเน้นย้ำให้รูขุมฯของเราดูชัดขึ้นไปอีก
แต่ปาร์พบวิธีแก้ค่ะ ให้มีผิวสวยได้จริง
- บำรุงผิวให้อิ่มน้ำขั้นสุดเลยค่ะสาวๆ จะมารค์หน้าเติมน้ำก่อนแต่ง หรือจะโบกครีมบำรุงก็ได้
- ทาไพร์เมอร์ ช่วยทำให้รูขุมขนของเราตื้นขึ้นแถมยังทำให้เจ้าตัวรองพื้นเนื้อบาล์มอามานี่ของเราติดทนขึ้นด้วยนะจ๊ะ (ปาร์ใช้ไพร์เมอร์ของ Hourglass มีความเข้ากันดีกับรองพื้นเนื้อบาล์มตัวนี้)
- วิธีการทาเจ้ารองพื้นตัวนี้ ห้ามปาดเด็ดขาด (ด้วยเค้ากลายสภาพเป็นแป้งทำให้มีรอยเกิดขึ้นง่าย) และยังจะเน้นรูขุมขนเราไปอีก ปาร์ใช้วิธีแท๊บๆ ค่อยๆกดๆย้ำเบาๆ ลงบนผิวหน้าจนแนบเนียนสนิทไปกับผิว ค่อยๆทากดที่ละจุดไปนะคะจนทั่วทั้งหน้า
- ทา 2กำลังดีก็เพียงพอบดบังรูขุมฯ รวมถึงจุดด่างดำ สำหรับปาร์ 3ชั้น ถือว่าหนาไปค่ะ และรู้สึกไม่ค่อยสบายผิวเท่าที่ควร ตรงไหนที่รอยดำชัด ก็อาศัยแท๊บๆเพิ่มเอาเป็นบางจุด หรือจะใช้คอนซีลเลอร์ช่วยก็ได้ค่ะ
สะท้อนกับแดดคืออย่างสวย ไม่ได้แต่งภาพนะจ๊ะ |
ผ่านไป 4ชั่วโมง ยังโอเคอยู่ ตรงจมูกมีหลุดไปบ้างแล้ว |
ผลลัพธ์หลังใช้จริงๆแล้วรู้สึกไง
ปาร์ขออธิบายเป็นแบบข้อดีและข้อเสีย สำหรับผิวหน้าของปาร์แทนละกันนะคะ
เพราะปาร์ผิวผสมค่อนไปทางแห้ง ช่วงนี้รูขุมขนกว้าง และปาร์เป็นคนผิวแพ้ง่ายค่ะ
ข้อดี
- สีรองพื้นถูกใจตรงเฉดผิวขั้นสุด มีให้เลือกหลายเฉดเหมาะกับสาวเอเชียอย่างบ้านเรามาก
- สะดวกใช้ ประหยัดเวลา พกพาง่ายทาได้ทุกที่
- ชอบตลับมียางกันรอบถาดวางพับทาหน้า ป้องกันอากาศเข้า
- ไม่ต้องลงแป้งฝุ่น หรือแป้งผสมรองพื้นก็ได้ power fabric blam ตัวเดียวแต่งหน้าต่อได้เลย (ทำบ่อยเวลาไปส่งลูกที่โรงเรียนตอนเช้าๆ) 😆😆
- ปกปิดปานกลางไปจนถึงมากสุด
- เติมระหว่างวันได้ แต่แนะนำต้องซับความมันบนผิวออกก่อน (ไม่งั้นเมือกเป็นรอยนะจ๊ะ)
ข้อเสีย
- เน้นรูขุมขนให้ชัดขึ้น
- เกิดสิวอุดตันง่าย (ล้างหน้ากันให้ดีๆนะจ๊ะ ปาร์ก็หันกลับไปใช้เครื่องล้างหน้าช่วยได้เยอะ)
- ทุกครั้งที่ใช้ จะรู้สึกยิ๊บๆที่ผิวเล็กน้อย ผ่านไป 6ชั่วโมงคือคันที่ผิวหน้า (เดาเอาว่าแพ้) และสิวขึ้นทุกครั้งที่ใช้จ้า
- ใช้ต่อเนื่องติดต่อกันทุกวัน สิวพดเห่อจ้า
เอาเป็นว่าก็ลองพิจารณากันดูนะคะ เพราะนี่เป็นเพียงความคิดเห็นของปาร์ หลังจากลองใช้จริงมาสักพักนานๆ (เห็นพื้นถาดอลูมิเนียมละจ๊ะ 9กรัมอ่ะนะ ) จนมั่นใจแล้วล่ะ เลยมาสรุปให้ได้อ่านกัน